วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2563

กินแล้วนอนเหมือนสุกร

 หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร  วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่



กินแล้วนอนเหมือนสุกร

https://youtu.be/ZPE9Bc7tUCg



ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ต่อนี้ไปตั้งใจนั่งสมาธิภาวนาขัดสมาธิเพชรให้ได้ทุกๆคน ทั้งหญิงชายจะปวดแข้งปวดขามันจะดีทุกวัน ดูพระพุทธเจ้าท่านนั่งได้ กายท่านก็แล้วว่าสวยสดงดงาม ร่างกายพระพุทธเจ้านั้นเป็นลูกจ้าวพระยามหากษัตริย์ไม่ได้ทำไร่ไถนา เมื่อท่านเสด็จออกบรรพชาทำยังนั่งสมาธิได้ คนสมัยนี้พระสมัยนี้     ขี้เกียจขี้คร้านกินแล้วก็นอนเหมือนสุกรบ่รู้จักตื่น ไม่สำคัญในการนั่งขัดสมาธิเพชรไม่เคยนั่งตามใจชอบนั่นแหละ พวกอยู่กรุงเทพเขาก็ว่าต้องนั่งในห้องแอร์ไม่ร้อน จะไปนั่งนอกห้องใหญ่ก็บ่ได้เหงื่อออก      การนั่งขัดสมาธิเพชรความจริงระเบียบธรรมเนียมต่างๆ มันเป็นเครื่องฝึกเครื่องหัด อย่าว่าไม่มีประโยชน์มันมีประโยชน์อยู่ ทุกคนที่เกิดมาในประเทศใดก็ตาม เขาให้เรียนหนังสือตั้งแต่เด็กเล็ก ตั้งแต่อนุบาล    มาจนถึงเรียนประถมมัธยม ทำไมหนังสือมีอยู่จะให้มันเรียนเองได้เยอะ มันก็ไม่ได้หนังสือนั้นต้องมีครูบังคับมีจริงไม่ใช่บังคับหนังสือบังคับคนบังคับเด็กบังคับ พวกเราเรียนหนังสือลองโยนหนังสือให้มันเรียนเองอยู่บ่ได้นะมันบ่ตั้งใจเรียนให้ครูสอนครูสอนไม่สอน ถ้ามันบ่เอามันจะเฆี่ยน แล้วตีเอาเด็กมันก็โกรธครู ว่ากลัวพ่อกลัวแม่แม่มันไม่กลัวครู เรียนหนังสือให้พอเขียนออกได้เขียน ได้อ่านออกแต่เด็กเกเรบางคนมันก็ไม่เอาถ่านสมัยก่อนนี้ก็เอากระดานดำทำกระดานมาให้เขียนในกระดานไปโรงเรียนมันจะขว้างกระดานไปก่อน แต่เกิดมันไม่เกี่ยวหรอกกว่าจะถึงโรงเรียน ที่เขียนหนังสือเรื่องนี้พวกแกๆเพราะเด็กจบมหาวิทยาลัยในประเทศและต่างประเทศนอก ไปเรียนนอกมันก็โกหกเอาเงินพ่อเงินแม่มัน ก็ไม่เรียนอีก บางคนก็กลับมาว่าจบแล้วจบ ขี้เกียจทำงานอีก สมัครสมัครที่ไหนก็เฮโลไปสมัคร เป็นหมื่นเป็นแสน บ่ได้ตรวจสอบบ่ได้ดอก มันก็ว่ามันรัฐบาลบ่ช่วย ตัวเองไม่ช่วยตัวเองจะไปให้รัฐบาลช่วยได้ไหม แผ่นดินไทยมีทรัพย์ในดินสินในน้ำ มีเรียนมากก็ได้ขี้เกียจมากขึ้นไปยังไม่ใช่ไม่ได้


พระพุทธเจ้าของเรา พระองค์รู้โลกกิเลสในใจมนุษย์ ที่ท่านเป็นรู้กิเลสในใจมนุษย์ คนอื่นเทวดาอินทร์พรหมได้ ท่านก็รู้ใจของท่านท่านเรียนท่านรู้จักกิเลส ราคะ โทสะ โมหะ อันมันมีอยู่ในใจของพระองค์นั้นเอง เมื่อยังเลิกไม่ได้ละไม่ได้ยังไม่เห็นทุกข์ ของ กิเลส ราคะ โทสะ โมหะ รู้เอามาพิจารณาแจ่มแจ้งแล้วก็เอามาสอนสาวกในสมัยนั้น กิเลสราคะ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ตามไปดูในใจตามเข้าไปดูร่างกายมันได้มาจากไหน มันได้มาจาก กามราคะ กิเลสมนุษย์ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ สืบเชื้อสายจะมาไม่รู้ว่ากี่ภพกี่ชาติ เกิดมาชาติใดก็มาหลงอยู่ในกามารมณ์ ไม่มีปัญญาที่จะตามรู้เห็นว่ามันเป็นมารร้าย ใหญ่ที่สุด มนุษย์ก็ตามสัตว์ทั้งหลายก็ตาม แม้กระทั่งตัวรินยุงที่มากัดคันตามตัวเรา มันก็มีกามบริโภคการที่เรายังลุ่มหลงมัวเมาในกิเลสจะตามมา คนอยู่คือปัญญามันเท่ากันกับยุงนั่น แหละยุงมันก็บริโภคกามได้ 


เราเป็นมนุษย์ พบพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าสอนให้รักษาศีลภาวนา เราก็ไม่สนใจไม่เปลี่ยนแปลงดูร่างกายสังขารของเราเอง มายึดมาถือว่า ตัวกูของกู ตัวข้าของข้า ตัวเราของเรา จะนั่งสมาธิภาวนาข้ออ้างนู่นอ้างนี่ไม่ลงภาวนาไม่เดินจงกรมไม่เร่งความเพียร เห็นแต่ความสุขความสะดวกเล็กๆน้อย ต้องอยู่ไปกินไปนอนไป เวลาความตายใกล้เข้ามาเอาแล้ว ตาเหลือกตาลาน กินมาก ปลาทู ปูเค็ม ขนมต้มไก่ เกิดท้องเสียท้องถ่าย ก็ไปติแม่ครัวบ้างทำให้เกิดพิษ ไปกินมันมันมากินเราไปกินเกิดเจ็บท้องเจ็บไปขึ้นมา ในเข้าโรงพยาบาลนั้น สมัยหลวงปู่มั่นเข้านิพพาน นานมาหลายสิบปีแล้ว เณรสมัยพระเณรสมัยนั้นทำไม่รู้ว่าไปกินยังไง กินกระดูกไก่เข้าไป เอาแล้วจะมีเดือดร้อนเข้าโรงพยาบาล โรงพยาบาลสกลนคร ยังอ่อนความรู้ต้องไปนู่น นครพนม ทีนี่หมอแก้ไขกระดูกไก่มันเข้าไปขวางเข้าไปขวางคอ พวกญาติโยมได้ข่าวว่าตัวเองว่ากินไปทำไม ทำไมไม่ดูให้ดี ต้องนึกถึงพระพุทธเจ้าท่านว่าให้เป็นผู้มักน้อยอาหารการกินน้ำให้ถือว่ามันเป็นเครื่องประทังชีวิต ชั่วระยะวันหนึ่งวันหนึ่งเท่านั้นเอง  จะไปทานมาก กินมากจนกระทั่งมันย่อยไม่ไหวย่อยไม่ไหว เกิดเจ็บท้องเจ็บไส้จะมาก็ท้องไส้มันมีกำหนดกฎเกณฑ์ ก็ดูจะถุงหลวงพี่นะเอาหยังยัดเข้าไปจนเต็ม มันก็เหมือนถุงหลวงพี่ผ่านมาใส่เข้าไปมากเกินไปแล้วขาด พุทธเจ้าท่านสอนมาไม่ให้มักมาก ให้มักน้อย ภาวนามากๆอย่ามัวไปถามอาจารย์ก่อนจะได้มรรคผลนิพพานง่ายๆพระองค์ใดที่ท่านสำเร็จพระเจ้าเป็นหยังได้อย่างนั้นเครื่องจะเอาสำเร็จในที่นั่งภาวนาธรรมที่จะเป็นไปเพื่อความรู้ความเข้าใจมันบ่เอาหมดตั้งใจ


ในสมัยครั้งพุทธกาล ก็มีพระภิกษุเมื่ออยู่จำพรรษาอยู่กับวัดมันสะดวกสบาย นอนหงายมือก่ายหน้าผาก ออกพรรษาแล้วจะชวนกันไปธุดงค์ สมัยโบราณ บ่เหมือนสมัยนี้ มันเป็นใช่ไหมเสือกินคนไมไม่เหมือนสมัยนี้คนกินเสือ ชวนกันไปธุดงค์เข้าในป่าในดงสมัยโน้นเที่ยงคืนมาเสือโคร่งก็มาตะครุบ ร้องโวยร้องว่าเพื่อน 3-4 องค์มาเพื่อนเราเป็นอะไรมาร้องให้ช่วยปิดไฟมามาเห็นเสือโคร่งแล้วกะบ่ได้บ้าง หลวงพี่ 3-4 องค์ บ่กล้าสละชีวิตจะช่วย เรื่องนั้นได้ก็ไม่เป็นไรบอกว่าเออทำเลยหาใครแล้วคำภาวนาคำสอนอาจารย์ท่านก็ให้ภาวนาและเสือโคร่งใครไปช่วยบ่ได้องค์ใดไปทั่วอย่างนั้นก็ตายจะตายก่อนกันก็ได้ลองบอกองค์ใดได้สติขึ้นมาถึงขั้นตายแล้วยังจะมองหาใครอีกก็ให้ภาวนาพุทโธ พุทโธ รวมจิตใจเข้าไปจนได้สำเร็จในเวลาเสือตะครุบ แต่เสือนั้นมันก็กิน จริงๆ มันห้ามบ่ได้ มันตายแท้ๆ ท่านจึงเร่งภาวนาเลย จึงได้สำเร็จ ยังบ่ถึงท้องยังพูดได้อยู่ จิตมันก็พันทุกข์ นี้ว่าสำเร็จในปากเสือ ทุกคนที่บวชในศาสนาแบบสำเร็จในปากเสือ เป็นตัวอย่างสมัยนี้ก็ยังบ่มีพระเณรขี้เกียจขี้คร้านนอนตื่นหลังไก่ป่ามีเยอะจนญาติโยมพร้อมญาติโยมอยู่ในกรุงเทพฯ พวกที่ชอบทำบุญทำทานกับพระที่อยู่ในกรุงเทพฯ เขาก็บ่ยอมทำไปหาทำกับพระอยู่ที่อื่น ยุคนี้มันเสื่อมเสียมาก ถ้านานกว่านี้หน่อยเขาก็จะบอกให้มาให้มันเดือดร้อนนะเดี๋ยวนี้คนยังรออยู่ถ้าพระสงฆ์ ผ้าขาว นางชี ประพฤติไม่ดีซึ่งความเสื่อมเสื่อมไปได้ 


ให้ตั้งอกตั้งใจปฏิบัติบูชาภาวนาอย่าได้ถอยเพียรพยายาม ให้กินน้อยการบริโภคอาหารมันถ้าลดลงไปมันก็เป็นธรรมดา แต่มันได้ประโยชน์ทางจิตใจเรา มัวแต่มาอิ่มหนำสำราญร่างกายอ้วน ที่ขึ้นมาราคะตัณหามันแรง จะตัดมันก็ยังไม่เกิดขึ้น มีแต่คอยจะเอาง่ายๆไม่ต้องประมาณ ตัวเองก็เลยสิกขาลาเพศ        มีพระองค์หนึ่งชื่อ เย้ยฟ้า เคยมาจำพรรษาขึ้นไปติดธง ลงมาบ่พิจารณาทางขึ้นทางลงทางปฏิบัติภูเขาไม่นอนข้างกูเขาดีนั่นเสือโคร่งบ่ลงมาหากินทั้งนั้นมาลงมา เย้ยฟ้า บ่ได้ มันจะเข้าไปในท้องเสือแล้ววันงาน เพื่อนก็บอกว่านี่แหละที่ เย้ยฟ้า หลวงปู่เฒ่าจำก็บ่ได้ อำนาจกิเลสกิเลสราคะโทสะโมหะครอบงำอยู่บ่แล้ว


เวลาที่เราได้มีโอกาสได้มา ปฏิบัติในพรหมจรรย์ ต้องรีบแรงต่อกิเลสความโลภมักน้อยยินดีสันโดษ อยู่ในที่เงียบที่สงัด กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ไม่เป็นคนพูดมาก พูดมากปากเกลียด กิเลสนักไม่ได้เรื่อง ผู้สนใจในภาวนาต้องตั้งใจ กินน้อยนอน น้อยพูดน้อย เดินจงกรมให้มาก นั่งสมาธิภาวนาให้ได้นานา เจริญพุทธมนต์สวดมนต์ให้ได้มาก หัดอยู่คนเดียวให้ได้ ไม่ต้องไปหาคุยกับคนนู้นอย่างนี้เฮฮาบ่ได้เรื่อง ฝึกตัวเองให้ได้ อยู่ที่ไหนกับท่านทางจงกรม ที่จะเดินจงกรมของตนบิณฑบาตฉันบิณฑบาตแล้วเข้าทางจงกรม ทางจงกรมก็ให้ทำเป็นที่นั่งได้ หัวทางเดินภาวนาพุทโธจนเหนื่อยแล้วก็นั่งหัวทางจงกรมนั่งภาวนา ถ้าง่วงก็ลุกขึ้นเดิน ถ้าง่วงจังๆเข้ามาเหรอนั่งมันก็จะหลับ ทำมนุษย์ก็พักหลับไป 


ถ้าไม่รีบเร่งปฏิบัติบ่ได้คอยตามกิเลสพาไป มีหลวงตามาจากจังหวัดนครราชสีมา มาขอให้หลวงปู่เป่าหัวให้ เป็นพระหลวงตา ยังมาขอหวยด้วยบอกเลขให้ด้วย นี้บอกว่าเลข 1 ถึงเลข 0 นั้น สมัยครั้งพุทธกาลท่านเอามาบวชตั้งแต่อายุ 7 ขวบนั่งสมาธิวันละกิเลสความโกรธโลภหลงได้เหมือนกันคนใหญ่ อายุ 7 ขวบภาวนาได้สำเร็จมรรคผล พวกเรานี้แหละว่าเป็นพระเป็นเณรใหญ่ ตั้งอกตั้งใจ ภาวนาประกอบกับทำจึงจะเกิดความรู้ความฉลาด ปฏิบัติการกระทำและมันจะเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเพราะว่าเราจะไปคิดเอาเองว่าจะต้องทำอย่างนั้นจะต้องทำอย่างนี้ ละอย่างนั้นอย่างนี้ มารยาของพญามารกิเลสมารกิเลสมารสังขารามามัจจุมารเมื่อภาวนาไปหน่อยมันก็เอาเรื่องความตายมาจะไปภาวนามากมากแล้วก็ตายง่าย


  อย่าไปเชื่อมันทำให้มากเจริญให้มากภาวนาทุกลมหายใจเข้าออกตัวให้เหมือนลมหายใจเข้าออกเข้าแล้วก็ออกไปออกไปแล้วก็เข้ามา ภาวนาพุทโธให้ได้เหมือนกับลมหายใจเข้าออกพระพุทธเจ้าท่านก็กำหนดลมหายใจเข้าออกลึกๆแล้วเป็นเบื้องต้นท่านกำหนดจนมองเห็นได้ว่าความตายนี่มันไม่ใช่ว่าแต่เหตุการณ์ภายนอกลมหายใจและมันใกล้ตายที่สุด สูดลมหายใจเข้าไปเกิดในครั้งในปอดในตับมันขัดข้องขึ้นมา ลมออกไปสูดเข้าไปไม่ได้ก็ตายได้เหมือนกัน ท่านมองเห็นมรณภัยในความตายทุกลมหายใจเข้าออกจนจิตใจสงบสลดสังเวช  ในความหลงความไม่รู้ของตัวเอง ฝึกจิตใจให้มีความสงบตั้งมั่นไม่หันเหไปสู่ฆราวาสญาติโยม  พุทธสาวกในครั้งพุทธกาลท่านได้บรรลุมรรคผล บ่ใช่นั่งรอท่า ความจริงมันก็มีอยู่ที่จิตใจของเรานี่แหละ แต่ถ้าใจกิเลสมันเข้ามาแทรกแซงมันบ่ได้ไปทั่วเข้าใจผิดหลงไป รวมกำลังให้เข้ามาพระพุทธองค์ท่านท่านจึงตรัสถามพระอานนท์พุทธอุปัฏฐาก ดูก่อนอานนท์อานนท์นึกถึงความตายวันละกี่ครั้งต่อวัน วันละหลายพันครั้งนั้นยังประมาทอยู่ ต้องให้ได้ทุกลมหายใจเข้าออกนะจะว่าเป็นผู้ไม่ประมาทร่วมเข้าไปสูดลมกับเราตายได้ละลมเข้าไป เวลาลมออกมาอบรมที่ออกมาก็ได้คนทั้งหลายมันตายอยู่ที่ลมเข้า -ลมออกไม่ได้ป่วยอะไรก็ตามทั้งหมดรวมทั้งนั้นตายลมออกซิเจนมันเป็นอาหารอย่างละเอียดไม่ใช่อาหารหยาบหยาบ เป็นอาหารละเอียดแล้วออกมาไม่ได้ก็ตาย หายใจออกไปสูดเข้ามาไม่ได้ก็ตาย 


ชีวิตของคนเรามันตายได้ทุกเวลา ไม่ควรประมาทควรรีบเร่งตั้งอกตั้งใจบำเพ็ญภาวนา ถ้าจะเอาแค่มาฟังธรรมคำสั่งสอนไงก็ไม่พอกับเหตุการณ์ *เราจะต้องเอาทุกลมหายใจเข้าหายใจออกเตือนใจอุบายใดฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะติดใจของเราก็ให้นึกให้สอนเอามาสอนเรามาเตือนทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมันเป็นอุบายทั้งนั้น เห็นใบไม้ร่วงหล่นเขาใบไม้ เห็นต้นไม้หักมาสอนนะชีวิตของมนุษย์ทุกคนมันหักลงมาคุณลงมาจากต้นไม้เหมือนใบไม้ที่มันร่วงหล่นตายไป ชีวิตของคนเราตายไปตายไปแล้วค่อยเข้าใจว่าเรายังหนุ่มยังสาว ไม่เป็นไรเวลาจะตายกับตายแต่หลวงปู่หลวงตาแก่ๆฟันหลุดหมดแล้วเรายังฝันดีกินข้าวอร่อยอยู่คงไม่ตายง่ายๆอันนี้มันเป็นความคิดหลงอยู่ในยุคนี้มันเป็นยุคยวดยานพาหนะ พาไปมากับคนเฒ่าคนก็บ่ค่อยตายตายคนหนุ่ม อายุ 40 กว่า 20 30 ขับรถขับราก็ยังไม่ระวังชนกันตาย เมื่อวันที่ 28 เข้าไปเทศในวิทยาลัยครูในกลางทางอำเภอแม่ริมไปเชียงใหม่ ทางก็ดีๆไม่รู้มันเอาไปชนกันยังไงแต่ไม่ใช่รถเราไปชนเขารถเขาชนรถเขาแต่มันขวางทางอยู่ นั่นแหละคนหนุ่มมาตายเร็วที่สุดสมัยนี้ เขาเรียกว่าสมัยนี้คนหนุ่มคนแข็งแรงตายมาก เขาว่ายังไงก็เพราะทำไปตามอำนาจกิเลสพูดไปตามอำนาจกิเลสไม่ได้สงบกายสงบวาจาสงบจิตใจของต นปล่อยให้อำนาจฝ่ายต่ำมา จนกระทั่งลงเคลือบฟุ้งซ่านรำคาญเวลาความตายมันเข้ามา ถ้าเราไม่รีบเร่งไม่ภาวนาไม่บำเพ็ญทานไม่รักษาศีลไม่สวดมนต์ไม่ฟังเทศน์เมื่อไม่ฟังเทศน์ฟังธรรม ก็ไม่เห็นสมณะสวดมนต์ภาวนามันจะได้เห็นสมณะผู้สงบระงับผู้สงบระงับทางจิตใจไม่ใช่ว่าไม่ให้พูดไม่ให้ทำ ยืนเดินนั่งนอนพูดจาปราศรัยตามธรรมดา แต่ให้มีสติเดือนจิต เดือนใจของตัวเองไม่เถลไถลไปตามอำนาจกิเลส ต้องรบยืนหยัดขึ้นมาสู้กับกิเลสใจของตัวเองให้ได้ เมื่อใจมันออนท้อแท้ขี้เซา ก็ทับถมเก่ากิเลสราคะโทสะโมหะก็ลุกขึ้นมาท่วมหัวใจเผาผลาญ จนเกิดภยันตรายไม่รู้สึกตัว


ฉะนั้นต้องตั้งใจเอาจริงเอาจังกับมันได้พุทโธอยู่ทุกเวลามานั่งกรรมฐานนึกได้ทุกเวลาเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยมันได้อะไรไป เวลาคนเขาจะตายแต่ก่อนพวกเราเขาได้อะไรไป  เมื่อถึงตัวเราก็เหมือนกันอย่าอยู่ด้วยความประมาทมัวเมา จงอยู่ด้วยในความไม่ประมาท ความเกียจคร้านไม่มีความมันความขยันขันแข็ง ภาวนาได้ทุกลมหายใจเข้าและออก ตั้งใจจริงๆ จึงจะมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกิดขึ้นในใจ คิดว่าตาบอดแล้วจึงจะแก้ หูหนวกแล้วจึงจะแก้ ตกนรกมาแก้ไม่ได้แก้ไม่ได้ แก้ในเวลานี้ดีสบายนะ เดี๋ยวนี้ในอนาคตเหมือนกันเก่าแก่ใจของตัวเองไม่ได้หลงไหลไปอยู่ใต้อำนาจกิเลสราคะโทสะโมหะ อย่างนั้นอย่านิ่งนอนใจ ภัยอันตรายในโลกรอบด้านอยู่ นี้เป็นอุบายเตือนเราทั้งหลายไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบลุกขึ้นภาวนาปฏิบัติบูชา สติความระลึกได้ สมาธิตั้งมั่นปัญญาความรอบรู้ในกองสังขาร เมื่อภาวนาให้มากเจริญให้มากปฏิบัติให้มากหรือไว้จึงจะเกิดญาณอันวิเศษลุกขึ้นมาละราคะ โทสะหมดไปสิ้นไปได้อย่าไปคิดว่ามันจะเลื่อนลอยมาไม่มีทาง ดังแสดงมาก็สมควรด้วยกาละเวลา เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Siam Class : บันทึกสำหรับคนชอบสะสม แสตมป์ (Stamps)